วงจรสวิทชิ่งแบบ.Self.Oscillating.ปัจจุบันอาจจะพบเจอได้น้อยมากแต่ก็ยังเห็นมีใช้งานอยู่บ้างตามเครื่องใช้ที่ไม่ได้ต้องการกระแสที่สูงเท่าไหร่นัก.การซ่อมสวิทชิ่งภาคจ่ายไฟทุกครั้งผมจะเน้นย้ำว่าควรจะต้องทำความเข้าใจหลักการทำงานขั้นพื้นฐานด้วย.ที่ต้องย้ำบ่อยๆ.เพราะว่าจะมีผู้ติดตามมาใหม่เรื่อยๆ.และช่างใหม่ๆ.ในช่วงเริ่มต้นก็มีช่างใหม่เกิดขึ้นทุกๆ.วัน
การทำงานของวงจรสวิทชิ่งแบบ.Self.Oscillating.ถือว่าเป็นต้นแบบของสวิทชิ่งในยุคปัจจุบันก็ว่าได้เป็นวงจรแบบ.Flyback.Converter.แต่ไม่ได้ใช้.IC.PWM.กำเนิดพัลส์อย่างที่เราคุ้นเคยกันแต่เป็นการสร้างสัญญาณออสซิลเลเตอร์ด้วยตัวเองตามชื่อเรียกการทำงาน.ซึ่งการออกแบบวงจรสวิทชิ่งแบบนี้ต้นทุนการผลิตจะไม่สูงแต่ก็จ่ายกระแสได้ไม่มากเช่นกัน.จึงนิยมใช้งานในเครื่องใช้ที่ต้องการแกระแสเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
วงจรสวิทชิ่งแบบ.Self.Oscillating.มีทั้งที่ทำงานแบบ.Single.คือใช้ทรานซิสเตอร์หรือมอสเฟสทำหน้าที่เป็นเพาเวอร์สวิทชิ่งเพียงตัวเดียว.แต่วงจรที่นำมาให้ดูตัวอย่างเป็นแบบ.Dual.คือใช้ตัวหนึ่งเป็นเพาเวอร์สวิทชิ่งและอีกตัวเป็นไดรสวิทชิ่ง.จากตัวอย่างด้านบนจะเห็นว่าวงจรนี้ใช้มอสเฟสเป็นเพาเวอร์สวิทชิ่ง(Power.Switching)และใช้ทรานซิสเตอร์เป็นไดรสวิทชิ่ง(Drive.Switching)
หลักการทำงานคร่าวๆ.ก็คือไฟสูงจะถูกส่งผ่านขดลวดไพรมารี่ส่งไปที่ขาD(เดรน)ของมอสเฟต.ในส่วนของขาG(เกต)ไฟVgsจะถูกส่งผ่านR.2ตัวเพื่อป้อนแรงดันให้ขาG(เกต)ส่งผลให้มอสเฟตสามารถทำงานได้และมีแรงดันไหลจากขาD(เดรน)มาที่ขาS(ซอร์ส)และแรงดันตรงนี้เองก็ถูกแบ่งไปไบอัสที่ขาB(เบส)ของทรานซิสเตอร์เป็นไดรสวิทชิ่ง(Drive.Switching)ด้วย
เมื่อมอสเฟตทำงานในสเต็ปแรกที่ขดไพรมารี่ก้มีสนามแม่เหล็กเกิดขึ้นการทำงานของสวิทชิ่งก็เริ่มต้นขึ้นในสเต็ปแรก.ในสเต็ปที่2.ที่ขาC(คอลเลคเตอร์)นั้นได้รับไฟจากชุดเดียวกันกับVgsของมอสเฟต.และเมื่อแรงดันจากขาS(ซอร์ส)ของมอสเฟตส่งผ่านRมาไบอัสให้ขาB(เบส)ของทรานซิสเตอร์เป็นไดรสวิทชิ่ง(Drive.Switching)ก็จะเริ่มทำงานได้ผลจากการสวิทของทรานซิสเตอร์ทำให้ขาC(คอลเลคเตอร์)กระเพื่อมมีลักษณะเป็นลูกคลื่นพัลส์ส่งไปที่ขาG(เกต)เป็นการทำงานในสเต็ปที่2.ทำให้สวิทชิ่งมีการทำงานที่สเถียรขึ้น
ในส่วนของวงจรฟีดแบ็คก็จะมีทั้งขดลวดและออปโต้คอยเปรียบเทียบการทำงานหากมีกระแสหหรือแรงดันเกินโดยฟีดแบ็คกลับไปที่ขาขาB(เบส)ของทรานซิสเตอร์เป็นไดรสวิทชิ่ง(Drive.Switching)เพื่อกำหนดว่าจะให้ทำงานมากหรือน้อยเพียงใดเพื่อการจ่ายกระแสและแรงดันที่เหมาะสมตามที่วงจรได้มีการออกแบบไว้
